สะพายเป้ นั่งรถไฟ ไปเที่ยวเกาะเต่า

อากาศร้อน ๆ แบบนี้ ใคร ๆ ก็อยากไปเล่นน้ำทะเล แต่จะไปทะเลใกล้ ๆ ก็จะดูธรรมดาไปซะหน่อย และบางครั้งงบประมาณที่มีอาจจะไม่มากนัก จะขับรถไปก็เปลืองค่าน้ำมัน ลองเปลี่ยนบรรยากาศเป็น Backpacker สะพายเป้ เกาะรถไฟ ไปเที่ยวแบบ slow Life ที่ “เกาะเต่า” ดูสิครับ

การเดินทางไปต่างจังหวัดด้วยรถไฟเรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่ประหยัดที่สุด แต่ปัจจุบันรัฐบาลได้ยกเลิกตั๋วฟรีไปแล้ว ผู้ที่ใช้ตั๋วฟรีได้ต้องมีบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยเท่านั้น  ซึ่งค่าตั๋วรถไฟที่จะเดินทางไปจังหวัดชุมพร มีราคาเริ่มต้นประมาณ 100 กว่าบาท เท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบรอบการเดินรถและราคาตั๋วได้ ที่นี่

เมื่อเดินทางถึงจังหวัดชุมพร ก็ต้องเดินทางไปที่ท่าเรือเพื่อเดินทางไปยังเกาะเต่า  โดยบริษัทเรือนอนที่ท่ายางเจ้าดี ๆ จะแบ่งกะกัน คือจันทร์ พุธ ศุกร์ ให้ขึ้นที่ “ท่าเรือเกาะเจริญ” ส่วน อังคาร  พฤหัสบดี  เสาร์ ให้ขึ้นที่ “ท่าเรือพรทวีสิน” ซึ่ง 2 เจ้านี้ จะอยู่ใกล้ ๆ กัน

เมื่อถึงเกาะเต่าแต่ยังไม่มีไอเดียว่าจะไปที่ไหน ให้มองหา 7-11 เพราะแน่นอน ที่นั่นจะมีของกินเพื่อคลายความหิวโหยจากการเดินทางบนเรือ และแถวนั้นจะมีแผนที่ มีเบอร์ที่พัก และข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการท่องเที่ยวบนเกาะนี้

ที่พักบนเกาะเต่าถ้าจะให้ประหยัดก็ต้องเป็นแบบ Hostel ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายที่ โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณเตียงละ 300-800 บาท จากข้อมูลของคุณ “high on dreams” ได้เข้าใช้บริการที่ Ban’s avenue guesthouse ซึ่งมีความสะอาด ดูดี และอยู่ในทำเลที่ดี ที่พักจะเป็นแบบ Mix dorm ในหนึ่งห้องจะมีเตียงเกือบ 20 เตียง เตียงละ 400 บาท (ข้อมูลปี 2557) การนอนโฮสเทลตรงที่เราเข้าเชคอินได้เลย ถ้ามีเตียงว่าง

การท่องเที่ยวบนเกาะเต่า ถ้าใครขี่มอเตอร์ไซค์ก็เช่าได้เลย ซึ่งก็มีอยู่หลากหลายร้านให้เช่า โดยเจ้าของกระทู้ได้เช่าไปในราคา 200 บาท/วัน ไม่มีมัดจำ ก่อนทำสัญญาเช่ารถ ก็ต้องเช็ครถ เช็ครอยชน รอยข่วน ให้ละเอียดก่อนออกจากร้าน ถ่ายรูปไว้ด้วยก็ยิ่งดี ตอนที่มาคืนจะได้ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งรถจะไม่มีน้ำมันไว้ให้ ต้องขี่ไปเติมเองที่ปั๊มใกล้ ๆ

สถานที่แรกที่เราจะไปเที่ยวกันก็คือ FREEDOM BEACH ซึ่งเจ้าของกระทู้ไปเที่ยวที่นี่เพราะว่าชื่อล้วน ๆ ซึ่งในแผนที่ภาษาไทยไม่มี จะมีในเวอร์ชันอังกฤษเท่านั้น การเดินทางนับว่าทุลักทุเลพอสมควร ต้องจอดมอเตอร์ไซค์แล้วเดินลงเขาเข้าไปที่หาด FREEDOM BEACH เป็นหาดที่เงียบสงบมาก น้ำใส ไม่มีคนเลย ทรายก็ไม่ใช่เนื้อละเอียด แต่เป็นหินปะการังเยอะ ๆ มีปะการังสีขาวห้อยใต้ต้นไม้

เชื่อว่าใครหลาย ๆ คน ที่เป็น Backpacker จะชอบเที่ยวแบบไม่มีเวลากำหนดมากนัก ทำอะไรที่อยากทำ  ไปในที่ที่อยากไป  และจะหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ที่เราต้องการ ให้ชีวิตมันเดินทางไปเอง ดื่มด่ำบรรยากาศรอบ ๆ เส้นทางที่เราไป ขับรถกินลมไปเรื่อย ๆ เจอหาดไหนน่าแวะก็แวะ เหนื่อยก็พัก หิวก็กิน

เกาะเต่าเป็นเกาะที่สามารถขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยวได้เกือบรอบเกาะ ยกเว้น ‘อ่าวเมา’ มอเตอร์ไซด์ที่สภาพไม่ค่อยดีไม่ควรไป เส้นทางที่ไปค่อนข้างลำบาก บางช่วงทางชันมาก จนคนซ้อนต้องลงเดิน เพราะมอเตอร์ไซด์ขึ้นไม่ไหว ช่วงลงเนินถ้าเบรกไม่อยู่ ลงทะเลแน่นอน เพราะฉะนั้น คนขี่ไม่แข็ง ต้องระวังให้มากๆ

ที่เกาะเต่าจะมีนักท่องเที่ยวที่เป็นฝรั่งเยอะมาก เดินไปทางไหนก็จะเจอราวกับอยู่ต่างประเทศเลยทีเดียว

มาต่อที่ อ่าวหินวง เป็นอ่่วที่มีปะการังเยอะมากแบะสวยอีกด้วย สามารถเดินลงไปดำน้ำ snorkel ได้จากหาดเลย

เจ้าของกระทู้ได้เปลี่ยนที่พักเป็น GoodTime Beach Hostel เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง ที่นี่เป็น Mix dorm ติดทะเล ใจกลาง walking street หาดทรายรี ซึ่งจะอยู่คนละโซนกับที่พักก่อนหน้านี้ นอนรวม 8 เตียง 450 บาท/คน

Landmark ที่สำคัญและห้ามพลาดเลย คือ “เกาะนางยวน” ในเมื่อหาเรือหางยาวแบบธรรมดาไปเกาะไม่ได้ เลยเลยต้องขึ้น TAXI BOAT ไป-กลับ คนละ 300 บาท เกาะนางยวน ประกอบด้วยเกาะ 3 เกาะเล็ก ๆ ที่มีชายหาดเชื่อมกัน เป็นจุดดำน้ำที่สวยงามมาก ๆ และติดอันดับโลกอีกด้วย น้ำใสแจ๋ว มองเห็นตัวปลา หาดทรายที่นี่ไม่ใช่หาดทราย แต่เป็นเศษหอยและปะการังทั้งหาด ซึ่งนี่แหละคือ “เสน่ห์” ของเกาะนางยวน

ในเมื่อเป็นจุดดำน้ำที่สวยงามติดอันดับโลก ก็ต้องดำน้าด้วย!

นั่งเรือกลับเกาะด้วยความเหนื่อยล้า ก็มานั่งทานอาหารพร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตก

เมื่อถึงวันกลับ เพื่อความสะดวกสามารถเลือกซื้อตั๋วกลับกรุงเทพแบบแพ็คเกจได้ ซึ่งมีให้เลือกตามนี้

• นั่งเรืออะไรเข้าชุมพร
  • เรือเร็วลมพระยา (2ชม.)
  • เรือธรรมดาบริษัทส่งเสริม (4ชม.)
  • เรือนอนเกาะเจริญ/พรทวีสิน(6ชม.)
• นั่งอะไรจาก ชุมพร เข้า กรุงเทพฯ
  • รถบัส (6ชม)
  • รถไฟ (10ชม)
  • เครื่องบิน

ซึ่งเจ้าของกระทู้เลือก เรือธรรมดา รอบบ่าย 2 ต่อด้วย รถบัส ราคา 850 บาท

สรุปค่าใช้จ่ายของทริปนี้

• ค่าเดินทาง 1,930 บาท
  • รถไฟ – ฟรี (ณ เวลานั้นยังมีรถไฟฟรีอยู่)
  • ตุ๊กๆ ไปท่าเรือ – 100 บาท
  • เรือนอน – 400 บาท
  • เช่ามอเตอร์ไซด์ 2 วัน – 400 บาท
  • น้ำมัน –  100 บาท
  • TAXI BOAT ไปกลับเกาะนางยวน – 300 บาท
  • แพ็คเกจเรือ + รถทัวร์ กลับ กทม. – 850 บาท
  • ค่าเข้าเกาะนางยวน – 30 บาท
• ค่าที่พัก 850 บาท
  • Ban’s Avenue Guesthouse – 400 บาท
  • Good Times Beach – 450 บาท
• ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 1,600 บาท
• รวม 4,380 บาท

หลายคนอาจจะคิดว่า 4,380 บาท นั้นแพงเกินไป ซึ่งบางอย่างเราเลือกไม่ทำก็ได้

• สำหรับคนไม่ดื่ม ก็หักค่าเครื่องดื่มปาร์ตี้ไปได้เลย 800 บาท
• สำหรับคนที่ไม่อยากง้อแพ็คเกจรถ กลับกทม. ก็นั่งรถไฟฟรีกลับ หักไปอีก 400 บาท (ใช้ไม่ได้แล้ว)
• สำหรับคนตื่นเช้า มีเรือไปเกาะนางยวนด้วยเรือหางยาว รอบ 10.30 จากแม่หาด และรอบกลับ 16.40 เที่ยวละ 20 บาท หักไป 260 บาท
• สำหรับคนไม่กลัวร้อน ไม่ชอบห้องแอร์ มาคนเดียวนอนโฮสเทลลมพัด 250 หรือมีถูกกว่านั้น ถ้าไม่ติดหาดหรือถ้ามาหารกับเพื่อน ก็มีบังกาโลพัดลม 500 บาท ทำเลดีมีเยอะ หักไปได้อีก 350 บาท (2 วัน)
• สำหรับคนชอบเดิน ก็ไม่ต้องเช่ามอเตอร์ไซด์ เดินเอาแบบพอเหนื่อยนิด ๆ ก็ชมชายหาดได้ถึง 5 หาดแล้ว
• สำหรับคนชอบปั่นจักรยาน ก็เอามาได้นะ เอาขึ้นเรือนอนมาเลย (ไม่ทราบว่าจะคิดเงินเพิ่มรุเปล่า) ไม่ต้องเช่ามอเตอร์ไซด์ เค้ามีทางสำหรับ ADVENTURE เลย หักค่าเช่ารถไปได้ 500 บาท (2 วัน)
• สำหรับคนไม่กลัวเรื่องเรือนอน มีอีกเจ้า 250 บาท ถูกกว่าเกือบครึ่ง รอบเที่ยงคืน หักไปอีก 150 บาท
• สำหรับคนตื่นเช้า (อีกครั้ง) มีรถไฟรอบ 7.30 ธนบุรี-หลังสวน ขึ้นที่สถานีธนบุรี ไปถึงชุมพร 16.55 (ถ้าไม่เลท) จะได้นั่งสองแถว 12 บาท ไปลงท่าเรือ ไม่ต้องเหมารถไป หักได้อีก 88 บาท
• เพราะฉะนั้น ถ้าจะทำทุกวิธีเพื่อประหยัดงบฯ เราจะเสียเงินแค่ 4,380 – (800+400+260+350+500+150+88)  = 1,832 บาท เท่านั้น

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก: Pantip User – high on dreams, พรทวีสิน