แบ่งปัน

ปัจจุบันหลายคนคงประสบปัญหาพื้นที่รอบบ้านมีน้อย แต่อยากมีมุมเขียวๆ เพื่อเติมความสดชื่นให้ชีวิตบ้าง ซึ่งการจัดสวนขนาดเล็กเป็นทางออกที่ลงตัวที่สุดสำหรับกรณีแบบนี้ โดยหัวใจของการจัดสวนเล็กๆ คือ พื้นที่ในการจัดวาง การเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะกับสภาพแสงแดดในที่ที่เราจัด นอกจากนี้ตัวเราเองก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่าง ว่าเราชอบดูแล และใส่ใจต้นไม้ และสวนมากแค่ไหน…

1.สวนแนวตั้ง

เพียงแค่หาชั้นวาง ตู้โชว์ หรือจะ D.I.Y.ชั้นวางจากไม้เก่าๆ ก็ได้ แล้วนำกระถางต้นไม้ที่คุณชื่นชอบมาจัดเรียงระดับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้กระถางเล็กๆ หรือจะเป็นพวกแคคตัส ไม้อวบน้ำก็เข้าท่าดี เล่นระดับกันตามใจชอบ และอาจจะแทรกด้วยของตกแต่งเก๋ๆ อย่างตุ๊กตาเซรามิคซักหน่อยก็ไม่เลว

2.สวนแขวน

เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่บ้านแทบจะไม่มีพื้นที่ เพราะเพียงแค่หาไม้กระถางแบบแขวนมาแขวนซักมุมนึงของบ้านก็ได้แล้ว โดยไม้ยอดนิยมที่นำมาตกแต่งมักเป็นพวกกล้วยไม้ ทิลแลนเซีย เดฟ หรือแม้กระทั้งเฟินบางชนิดก็นำมาแขวนได้ จากนั้นนำมาเล่นระดับซักหน่อย แขวนร่วมกับโมบาย กระดิ่งลม ก็สวยเข้ากันดี

3.สวนติดกำแพง หรือผนัง

จริงๆ มันคือการผสมผสานระหว่างสวนแนวตั้ง กับสวนแขวน แต่มันเป็นการแขวนแบบเป็นแผงติดผนัง ซึ่งการจัดสวนแบบนี้ต้องพิจารณาจากความชอบปริมาณน้ำของต้นไม้แต่ละชนิดเป็นหลัก โดยไม้ที่ชอบน้ำน้อยควรไว้ระดับบน และไม้ที่ชอบน้ำมากควรไว้ระดับล่าง เพราะเวลาที่เรารดน้ำ น้ำจะไหลลงมาที่ต้นที่อยู่ด้านล่างหมด ฉะนั้นต้องระวังให้ดีไม่งั้นจะเน่าตายหมด

4.สวนขวด

สวนขวด หรือ Terrarium (ถ้ามีการใส่น้ำเข้าไปบางส่วนจะเรียกว่า Paludarium เป็นการผสานกันระหว่าง Terrarium กับ Aquarium) ช่วงนึงเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ด้วยสภาพอากาศบ้านเราอาจจะดูแลยากซักหน่อย แต่ข้อดีคือไม่ต้องรดน้ำบ่อยๆ การจัดสวนขวดไม่จำเป็นต้องจัดในขวดเสมอไป จะใช้โหลแก้วใสๆ เก๋ๆ หรือถ้าลงทุนหน่อยจะจัดใส่ตู้ปลาขนาดย่อมๆ ก็ได้ โดยต้นไม้ที่ใช้จะเป็นพวกพืชตระกูลเฟิน มอส แคคตัส ไม้อวบน้ำ หรือไม้ที่ชอบความชื่นจัดๆ ขึ้นอยู่กับว่าจะทำแบบระบบเปิด หรือระบบปิด

5.สวนเข้ามุม

ลองเลือกมุมใดมุมหนึ่งของบ้าน จะใน หรือนอกก็ได้ตามใจชอบ จากนั้นหาไม้กระถางมาวาง แล้วเล่นระดับด้วยชั้นวางเล็กๆ หรือถ้าจะปลูกลงดิน อาจหาไม้คลุมดิน หรือไม้เลื้อยมาใส่เพิ่ม ตกแต่งด้วยกรวดโรยรอบต้นไม้เป็นการบอกอาณาเขต หรือจะอยากจะกั้นรั้วเตี้ยๆ ซักหน่อยก็ได้