แบ่งปัน

Streetlight Tagpuro : Philippines

อาคารศูนย์การเรียนรู้ และสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ เป็นผลงานจาก 3 สถาปนิกที่เป็นเพื่อนกัน Eriksson Furunes, Leandro V.Locsin และ Jago Boase ร่วมกันชุบชีวิตกลับขึ้นมาใหม่ หลังจากตัวอาคารเดิมโดนพายุพัดถล่มจนพังพินาศ โดยตัวอาคารใหม่นี้ใช้วัสดุที่หาได้ง่ายๆ ในท้องถิ่น มีโครงสร้างคอนกรีตที่แข็งแรงมากๆ ผสมผสานกันกับไม้โครงหลังคาที่มีน้ำหนักเบา


The Smile London : United Kingdom

The Smile เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ถูกสร้างขึ้นมาในงาน The Smile for London Design Festival ออกแบบโดย Alison Brooks สถาปนิกชื่อดังของโลก หน้าตาของตัวสิ่งปลูกสร้างนี้มีรูปทรงเป็นโพรงเหมือนท่อ และโค้งงอเหมือนรอยยิ้ม ซึ่งทั้งหมดใช้โครงสร้างวัสดุเป็น Cross Laminated Timber คือการนำไม้แผ่นเนื้อแข็งมาอัดกาวต่อกันเป็นชั้นๆ จนแข็งแรงเทียบเท่ากับเหล็ก


Superlofts : Netherlands

Superlofts คิดค้น และออกแบบโดยสถาปนิกที่ชื่อ Marc Koehler เป็นตัวอย่างบ้านที่ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามความต้องการ ภายใต้แนวคิดผู้อยู่อาศัยมีส่วนร่วมในการทำบ้านของตัวเอง แถมยังราคาไม่สูงอีกต่างหาก


The Palestinian Museum : Palestine

ดินแดนที่เคยมีแต่สงคราม แต่ใครจะคิดว่าจะมีสุดยอดงานสถาปัตยกรรมอยู่ พิพิธภัณฑ์นี้ออกแบบโดย Heneghan Peng Architects ตัวอาคารถูกสร้างจากหินปูน ตั้งอยู่บนเนินล้อมรอบด้วยสวนดอกไม้ที่เล่นระดับลดหลั่นกันอย่างสวยงาม นอกจากนี้ทางทิศตะวันตกของอาคารยังสามารถมองเห็นวิวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อีกด้วย


Binh House : Vietnam

บ้านหลังนี้เป็นส่วนนึงของ Vietnamese Studio’s House for Trees series ออกแบบโดย Vo Trong Nghia Architects มีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับเมืองโฮจิมินห์ที่มีสภาพค่อนข้างแออัด ตัวอาคารจึงเน้นพื้นที่เพื่อให้ปลูกต้นไม้ต่างๆ ได้


Project of Guangming Village : China

โดย The Chinese University of Hong Kong ได้ลองศึกษาค้นคว้าในการสร้างที่อยู่อาศัยที่แข็งแรง ปลอดภัย และต้นทุนไม่สูง จุดประสงค์ก็เพื่อที่จะสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศจีน โดยตัวอาคารจะเป็นแบบผสมยุคเก่ากับยุคใหม่


Co Op Kyosai Plaza : Japan

ผลงานการออกแบบของบริษัทสถาปนิก Nikken Sekkei ได้ทำให้อาคารสำนักงานใหญ่ของ Co Op Kyosai Plaza ในย่านชิบูย่า โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เต็มไปด้วยไม้เลื้อยที่ขึ้นอย่างสวยงามตามแนวม่านโซ่ที่ขึงไว้ด้านนอกของอาคาร


The Farm of 38-30 : Turkey

โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์จากนมที่ตั้งอยู่ใจกลางประเทศตุรกีนี้ ถูกออกแบบโดย Slash Architects และ Arkizon Architects ตัวอาคารโอบล้อมสวนที่อยู่ตรงกลาง ทำให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมสามารถมองเห็นการผลิตผลิตภัณฑ์ภายในได้ ส่วนผนังด้านนอกอาคารนั้นได้ถูกออกแบบให้มีความโดดเด่นของหินตัดกับหน้าต่างกระจกแนวยาว


East Sydney Early Learning Centre : Australia

Andrew Burges Architects ได้เนรมิตโกดังเก่าๆ ในเมืองซิดนีย์ให้กลายเป็นโรงเรียนอนุบาลอย่างไม่น่าเชื่อ เสมือนเป็น “เมืองย่อส่วน” ห้องต่างๆ ที่มีลักษณะเหมือนบ้านหลังน้อยๆ ถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยไม้อัด แทนที่รูปลักษณ์เดิมซึ่งเป็นอาคารอิฐในสมัยยุคปี 1920 รวมทั้งบนหลังคาก็ได้มีการสร้างบ่อทรายที่ล้อมด้วยหญ้าเทียมไว้อีกด้วย


US Bank Stadium : United States of America

หากจะพูดถึงสนามกีฬาที่ออกแบบได้อย่างสุดยอด “ยูเอสแบงก์สเตเดี่ยม” ของทีมมินเนโซต้า ไวกิ้งส์ ทีมอเมริกันฟุตบอลในเมืองมินนิอาโปลิส ประเทศสหรัฐอเมริกาก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งออกแบบโดยบริษัท HKS ตัวสเตเดี่ยมมีลักษณะหลังคาที่สมมาตร และสูงชัน รวมทั้งมีดีไซน์เหมือนเครื่องบิน ทั้งนี้ก็เพื่อให้หิมะสามารถไหลผ่านได้ในช่วงฤดูหนาว ส่วนหลังคาทำจากวัสดุแผ่น ETFE ซึ่งเป็นพลาสติกประเภทหนึ่งที่มีความใส น้ำหนักเบา และทนทาน จะช่วยให้แสงแดดสามารถส่องลงมาในสนามกีฬาได้ และยังทำให้คนที่ทำงานตามตึกสูงระฟ้า สามารถมองลงมาได้อีกด้วย

ขอขอบคุณภาพ และข้อมูลจาก : dezeen และ worldarchitecturefestival