คำศัพท์ทั่วไปอย่าง mouse, Cookie, หรือ Spam เป็นคำที่เราใช้กันทั่วไป แต่เมื่อมาอยู่ในโลกของเทคโนโลยี ก็จะมีความหมายที่แต่งต่างออกไป เรามาดูที่มาที่ไปของ 7 คำศัพท์ยอดฮิตในวงการ IT กันครับ
Mouse
คำว่า “mouse” ไม่มีที่มาที่ไปแน่ชัด แม้แต่ผู้คิดค้นอุปกรณ์นี้ Douglas Engelbart ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปี 1968 ว่า “ผมไม่รู้เลยว่าทำไมเราถึงเรียกอุปกรณ์นี้ว่า ‘mouse’ มันเริ่มมาอย่างนี้ และเราก็เรียกติดปากแบบนี้กันเรื่อยมา” อีกหนึ่งบทสัมภาษณ์จากเว็บไซต์ Super Kids กล่าวว่า “ไม่มีใครทราบที่มาที่ไป แต่มันมีรูปร่างคล้ายกับหนูที่มีหาง และเราก็เรียกแบบนั้นในห้องทดลอง”
Roger Bates นักออกแบบฮาร์ดแวร์ ซึ่งทำงานเกี่ยวกับออกแบบเมาส์ในขณะนั้น มีข้อมูลที่ต่างออกไป ในหนังสือ What the Dormouse Said บอกว่า cursor บนหน้าจอคอมพิวเตอร์เคยถูกเรียกว่า “CAT” ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่แมวจะไล้จับหนู เราจึงเรียกอุปกรณ์ชิ้นนี้ว่า “mouse”
Blog
จริงๆ แล้วคำว่า Blog ย่อมาจากคำว่า “weblog” ถูกคิดค้นเมื่อปี 1997 โดย Jorn Barger เพื่อเอาไว้อ้างอิงถึงเว็บไซต์ของเขา “Robot Wisdom” โดยเป็นการเก็บข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตของเขาเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปก็เลยถูกย่อเหลือแค่ “blog”
Cookies
Cookies คือข้อมูลเล็ก ๆ ที่ถูกเก็บไว้โดยอัตโนมัติเมื่อเราเข้าชมเว็บไซต์ กลายมาจากคำเดิมว่า “magic cookies” ที่มีความหมายเหมือนกัน
Lou Montulli ผู้คิดค้น web cookie กล่าวว่า “ผมได้ยินคำว่า ‘magic cookie’ จากหลักสูตรระบบปฏิบัติการในวิทยาลัย และเขาชอบคำว่า ‘cookies’ ด้วยเหตุผลทางด้านความสุนทรียะ” ซึ่ง “Cookies” เป็นสิ่งแรกที่เขานึกถึง
คำว่า “magic cookies” ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าเริ่มต้นมาจากไหน แต่ทางทฤษฎีน่าจะมาจากวิดีโอเกมในสมัยก่อน ซึ่งผู้เล่นต้องเก็บ “magic cookies” เพื่อจะได้เก่งขึ้น
Spam
Spam หรือเมล์ขยะ มีที่มาจากทีวีโชว์ Monty Python โดยในขณะรับประทานอาหาร อาหารทุกจานจะมี Spam เป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย ทันในตัวละครก็ตะโกนขึ้นมาว่า “Spam” ติดต่อกันหลายครั้ง ซึ่งคำนี้ไปปรากฏที่ห้องพูดคุยในอินเทอร์เน็ต ซึ่งสื่อถึงความน่ารำคาญ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ โดยที่เราไม่ต้องการ
Meme
Meme คือ พฤติกรรม, คำพูด, หรือการกระทำ ที่คนคนหนึ่งทำขึ้นมา แล้วเกิดการเลียนแบบ แพร่ผ่านไปทางสื่อ อย่างรวดเร็ว
จากหนังสือ The Selfish Gene ในปี 1976 นักวิทยาศาสตร์ชื่อ Richard Dawkins เขียนไว้ว่าเขาต้องการคำที่สามารถสื่อถึง “การกระทำทางวัฒนธรรมที่ทำขึ้นมา แล้วเกิดการเลียนแบบ” ซึ่งเขาได้พบคำในภาษากรีกว่า “mimeme” แปลว่า “สิ่งที่ถูกเลียนแบบ” แต่ย่อให้เหลือแค่ “meme”
คำนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากบนอินเทอร์เน็ต “เมื่อใครก็ตามพูดถึงเรื่องที่เป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” บนอินเทอร์เน็ต นั่นแหละที่เรียกว่า “meme” – Dawkins กล่าว
Hacker
Hacking นั้นไม่ได้หมายถึงเรื่องในทางลบเสมอไป ในยุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี คำนี้หมายถึงการเป็นคนที่ฉลาดและมีความสามารถพิเศษ ไม่ใช่เฉพาะด้านคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และรวมถึงทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด
ในหนังสือ Piracy Cultures บอกไว้ว่า คำว่า hacker มีต้นกำเนิดมาจากข้อความ “one who works like a ‘hack’ at writing and experimenting with software.” หรือ “บุคคลที่ทำงาน ‘ห่วยๆ’ ในการเขียนและทดสอบโปรแกรม” ในปัจจุบัน “Positive hacking” หรือ “การแฮกที่ดี” ยังมีอยู่ โดยบุคคลในวงการไอทีจะเรียกแฮกเกอร์ที่มีความประสงค์ร้ายว่า “crackers” แทน
Firewall
Firewall คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่คอยป้องกันเครื่องของคุณจากเหล่าแฮกเกอร์และไวรัส มีที่มาจากการสร้างกำแพงที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันสิ่งปลูกสร้างจากไฟที่ลุกลามเมื่อ 100 ปีก่อน ในคอมพิวเตอร์ก็คล้ายกัน firewall มีไว้ป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่ระบาด
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก mashable